หน้าแรก > นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าอารีเกเตอร์

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบาย”) ออกโดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” “เรา” หรือ “ของเรา”) ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและ/หรือเว็บไซต์อารีเกเตอร์ (“แพลตฟอร์มอารีเกเตอร์”) เพื่อแจ้งถึงลูกค้า และบุคคลภายนอกที่รับบริการ และ/หรือใช้ผลิตภัณฑ์จากสมาชิกของแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ และ/หรือผู้ใช้แพลตฟอร์มอารีเกเตอร์รายอื่น (“คุณ” หรือ “ของคุณ”) ได้ทราบถึงจุดประสงค์ของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ การเปิดเผย และ/หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บ รวบรวม

    ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ ประเภทของข้อมูลที่บริษัทเก็บ รวบรวมจะขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่คุณสนใจ หรือลักษณะที่คุณมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิก หรือผู้ใช้แพลตฟอร์มอารีเกเตอร์รายอื่น

    บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอันได้แก่(1) การปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือธุรกรรมแก่คุณ (2) การปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลอื่น (4) ฐานประโยชน์ที่สำคัญเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อการดำเนินการอันเป็นสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ

    กรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับดำเนินกิจกรรมบางอย่างในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทจะดำเนินการขอรับความยินยอมจากคุณสำหรับกิจกรรมดังกล่าวแยกต่างหาก โดยบริษัทอาจเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังต่อไปนี้

    1. ข้อมูลทั่วไป
      • ข้อมูลระบุตัวตน: เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ รายละเอียดการติดต่อ (เช่น หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลติดต่อทางโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ อีเมล และข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ไลน์ เฟสบุ๊ค) เอกสารการระบุตัวตนที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง หรือเอกสารการระบุตัวตนอื่น ๆ ที่ออกโดยรัฐบาล) หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ ภาพถ่าย ข้อมูลด้านอาชีพและสถานะการจ้างงาน ข้อมูลด้านรูปแบบการใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย และประวัติการขับขี่
      • รายละเอียดของยานพาหนะ: เช่น ใบอนุญาตสำหรับยานพาหนะของคุณ ข้อมูลยานพาหนะในปัจจุบันของคุณ เช่น หมายเลขทะเบียน จังหวัดที่จดทะเบียน ยี่ห้อรถ รุ่น ปีที่ผลิต ปีจดทะเบียนของยานพาหนะ หมายเลขตัวถัง ขนาดเครื่องยนต์หรือซีซี และน้ำหนักสุทธิของยานพาหนะ รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อุปกรณ์เพิ่มเติมและอุปกรณ์ตกแต่ง
      • รายละเอียดผลิตภัณฑ์/บริการ: เช่น รายละเอียดประกันภัยที่ทำไว้ในอดีต หรือในปัจจุบัน ประวัติการเคลมประกันภัย ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ หมายเลขกรมธรรม์ประกันภัย รายละเอียดบริษัทประกันภัย วิธีการชำระเบี้ยประกัน ระยะเวลาการคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย (ตั้งแต่วันเอาประกันและวันสิ้นสุดการเอาประกัน) รายละเอียดเบี้ยประกัน เหตุผลในการยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย จำนวนงวด จำนวนเงินที่จ่ายต่องวด และภาษีมูลค่าเพิ่ม
      • ข้อมูลการสื่อสาร: เช่น การตั้งค่าการสื่อสารของคุณ บันทึกการติดต่อจากคุณกับสมาชิกของแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ และ/หรือผู้ใช้แพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ บันทึกการขาย รายละเอียดหรือเนื้อหาของการสื่อสารระหว่างคุณกับบริษัท
      • ข้อมูลการตลาด: เช่น การตั้งค่าทางการตลาดของคุณ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัท คาดว่าคุณอาจสนใจ และการอ้างถึง/การอนุมานตามการโต้ตอบหรือการปฏิสัมพันธ์ของคุณกับบริษัท บริษัทในเครือ หรือพันธมิตรของบริษัท
      • ข้อมูลอื่นใดที่ให้แก่บริษัท: เช่น ข้อมูลที่ได้ให้ไว้เป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์ใหม่หรือเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันกับคุณ และสามารถระบุตัวตนของคุณได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
      • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น: บริษัทอาจเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น (เช่น สมาชิกในครอบครัวของคุณ ผู้ขับขี่อื่น หรือผู้รับผลประโยชน์) สำหรับการจัดหาผลิตภัณฑ์ หรือการดำเนินการให้บริการของบริษัท หากคุณให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท คุณรับรองและยืนยันว่าคุณมีอำนาจในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดย (ก) แจ้งให้บุคคลอื่นนั้นทราบเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ และ (ข) ได้รับความยินยอมในกรณีที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อจำเป็นเพื่อให้บริษัท สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้

      ทั้งนี้ หากมีความเป็นไปได้ในการผสานข้อมูลใด ๆ เข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากมีการใช้ข้อมูลอื่นเพื่อสร้างโปรไฟล์ของคุณ บริษัท จะถือว่าข้อมูลอื่น ๆ และข้อมูลที่ผสานกันเป็นข้อมูลส่วนบุคคล

    2. ข้อมูลละเอียดอ่อน (Sensitive Data)

      ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน: เช่น ข้อมูลศาสนา (ตามที่ปรากฎบนบัตรประจำตัวประชาชน) ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลความพิการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่คุณสนใจ โดยกรณีเรามีวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เราจะดำเนินการบนพื้นฐานของความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือตามข้อยกเว้นทางกฎหมายซึ่งอนุญาตให้ไม่ต้องขอความยินยอม

      บริษัทจะเก็บ รวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถ ภายใต้ความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนหรือผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลในกรณีที่มีความจำเป็น หรือเมื่อบริษัทมีฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บ รวบรวมได้ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต บริษัทจะไม่เก็บ รวบรวมข้อมูลจากลูกค้าที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยปราศจากความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนตามจำเป็น หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย ในกรณีที่บริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่เจตนาจากผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายนั้น บริษัท จะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวทันทีหรือประมวลผลเท่าที่บริษัทมีฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากการขอความยินยอมรองรับ

  2. วัตถุประสงค์การจัดเก็บ รวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

    บริษัทอาจเก็บ รวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆโดยขึ้นอยู่กับคุณปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณและบริษัทหรือขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่คุณสนใจ ดังนี้

    • การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท: เช่น เพื่อทำการวิจัยหรือวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงการใช้ข้อมูลนิรนามเพื่อวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ของเครื่องจักรกล รวมถึงการดำเนินการใดๆเพื่อการปรับปรุงการให้บริการของบริษัท และ เพื่อรวบรวมข้อมูลสถิติเกี่ยวกับการบริการ
    • การให้บริการ: เช่น เพื่อการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อเสนอราคา หรือการเปรียบเทียบข้อเสนอราคาสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่คุณกำลังทำการเปรียบเทียบ หรือมีข้อซักถามอยู่ รวมถึงการส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ เพื่อการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับคำขอรับกรมธรรม์ การจัดทำและการจัดการกรมธรรม์ การดำเนินการกับเบี้ยประกันและการชำระเบี้ยประกัน
    • การโฆษณาและการตลาด เช่น เพื่อทำการตลาด การสื่อสาร ประกาศ ข่าวสาร และการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ รวมถึงการโฆษณาและการสื่อสารทางการตลาด บริการและของรางวัลจากบริษัท บริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อส่งข้อเสนอสำหรับโปรโมชั่น ข้อเสนอพิเศษและข้อเสนอ / โปรโมชั่นอื่น ๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการให้ส่วนลด) งานกิจกรรมและงานกิจกรรมในด้านความร่วมมือ / การเป็นพันธมิตร และบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อทำการตลาดแบบตรงและการทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อแสดงโฆษณาออนไลน์ เพื่อให้ข้อเสนอหรือโปรโมชั่นแบบกำหนดเป้าหมาย เพื่อดำเนินการและจัดการการลงทะเบียนบัญชีและการลงทะเบียนกิจกรรมของคุณ เพื่อดำเนินการวางแผนกลยุทธ์ และดำเนินการด้านการตลาดดิจิทัล เพื่อดำเนินการในด้านความสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เพื่อทำการวิจัยทางการตลาด และประเมินหรือปรับปรุงประสิทธิภาพทางการตลาดของบริษัท เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสื่อสังคมออนไลน์ การสื่อสารการตลาดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่านเอเจนซี่
    • การดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและธุรกิจ: เช่น เพื่อเก็บรักษาบันทึกการเรียกเก็บเงินลูกค้า เพื่อปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลของคุณ เพื่อรักษาความถูกต้องของข้อมูล เพื่อทำการควบคุมความเสี่ยงของบริษัท การตรวจสอบและการเก็บบันทึกการตรวจสอบ เพื่อเก็บบันทึกทางธุรกิจและอื่น ๆ เพื่อการปฏิบัติงาน จัดการ และรักษาการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อดูแลการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท การจัดการระบบสื่อสาร การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และเพื่อดูแลการจัดการธุรกิจภายในสำหรับข้อกำหนดการปฏิบัติงานภายใน นโยบายและขั้นตอนของบริษัท
    • เพื่อการสื่อสารและการจัดการความสัมพันธ์ของบริษัทกับคุณ: เช่น เพื่อแจ้งข้อมูลแก่คุณ การสื่อสารทางข้อความ (SMS) หรืออีเมล เพื่อส่งจดหมายหรือเอกสาร เพื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับคุณ เพื่อการจัดการกับข้อซักถาม ข้อเรียกร้อง หรือเรื่องร้องเรียนอื่นใดที่คุณอาจมี
    • เพื่อการยืนยันตัวตนของคุณ: เช่น เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการตามกระบวนการที่ต้องรู้จักลูกค้าและระบุตัวตนหรือพิสูจน์ตัวตนได้อย่างถูกต้อง (KYC) หรือในกระบวนการตรวจสอบเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (CDD) เพื่อตรวจสอบข้อมูลของคุณจากบัญชีดำ การฟอกเงิน และการก่อการร้าย เพื่อให้เข้าถึงบัญชีของคุณจากการลงทะเบียน การยืนยัน การระบุตัวตนและการรับรองความถูกต้องของคุณ หรือตัวตนของคุณและการลงนาม เพื่อยืนยันตำแหน่งของคุณเพื่อให้สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณ และเพื่อเก็บคำถามรักษาความปลอดภัยที่ใช้ในการยืนยันตัวตนในภายหลังสำหรับกรณีผ่านทางออนไลน์ หรือมือถือ
    • การปกป้องประโยชน์ของบริษัท: เช่น เพื่อป้องกันความปลอดภัยและความมั่นคงของบริษัท การใช้สิทธิและการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท เมื่อจำเป็นและสามารถทำได้ตามกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกันและตอบสนองการร้องเรียนที่เป็นการทุจริต และเพื่อประเมินความเสี่ยงจากการทุจริต และการระบุธุรกรรมที่มีการทุจริต การเรียกร้องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินและสินทรัพย์ของบริษัทเพื่อดำเนินการตรวจสอบรายชื่อการติดโทษ (sanction list) การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบภายในและบันทึก การจัดการสินทรัพย์ ระบบและการควบคุมธุรกิจอื่น ๆ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามอันตรายซึ่งอาจเกิดกับชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เพื่อการตรวจสอบรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัท การติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานความผิดทางอาญา และเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของบริษัท สำหรับการอ้างอิงและใช้เป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องหรือการดำเนินคดี
    • ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย: เช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย การดำเนินคดี หรือคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอาจรวมถึงคำสั่งจากหน่วยงานของรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือการให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อบริษัท มีความเห็นสมควรว่า บริษัท จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อให้ความร่วมมือตามกฎหมาย การดำเนินการ คำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ หลักจรรยาบรรณ และนโยบายภายในของบริษัท และบริษัทในเครือ การใช้สิทธิและการโต้ตอบข้อเรียกร้องทางกฎหมาย เพื่อเก็บรักษาบันทึกและแก้ไขข้อร้องเรียนและข้อพิพาท เพื่อประมวลผลการดำเนินกิจกรรม เพื่อประมวลผลกิจกรรมการรายงานเครดิต และการกำกับดูแลและการรายงานภาษี การเปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ
    • การทำงานของแพลตฟอร์มของบริษัท: เช่น เพื่อการบริหารงาน การดำเนินงาน การติดตามงาน การตรวจสอบ และจัดการแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อการอำนวยความสะดวกต่าง ๆให้กับคุณในแพลตฟอร์มของบริษัท ปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาในแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่อให้สามารถเข้าถึงระบบที่มีอยู่และให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค
    • การทำธุรกรรมขององค์กร: ในกรณีที่มีการขายกิจการ โอนกิจการ การควบรวมกิจการ ปรับโครงสร้างกิจการหรือเหตุการณ์ที่คล้ายกัน ซึ่งบริษัท อาจโอนข้อมูลของคุณไปยังบุคคลที่สามอย่างน้อยหนึ่งราย อันเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น
    • การป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: เช่น การตรวจสอบบันทึกกิจกรรมเครือข่าย เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความปลอดภัย เพื่อดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและเพื่อป้องกันอันตรายอันอาจเกิดกับข้อมูล การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและกิจกรรมอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวโยงกับการบำรุงรักษาข้อมูล
    • วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน:
      • ข้อมูลศาสนา: โดยบริษัทอาจได้รับข้อมูลศาสนาซึ่งติดมากับสำเนาบัตรประชาชนของคุณ เพื่อวัตถุประสงค์ในการยื่นสำเนาบัตรประชาชนของคุณต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น:
        หมายเหตุ: บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ในการเก็บใช้และไม่มีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าบัตรประชาชนของคุณในระบบข้อมูลของบริษัท
      • ข้อมูลสุขภาพ: เพื่อวัตถุประสงค์ในการขอรับใบเสนอราคากรมธรรม์ประกันภัย เพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือกระบวนการพิจารณาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การดำเนินการเรียกสินไหมทดแทน และการชำระสินไหมในนามของผู้เอาประกันภัยอันเกินขอบเขตของกฎหมายที่อนุญาต:
      • ข้อมูลความพิการ: เพื่อวัตถุประสงค์ในการขอรับใบเสนอราคากรมธรรม์ประกันภัย และเพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือกระบวนการพิจารณาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การดำเนินการเรียกสินไหมทดแทน และการชำระสินไหมในนามของผู้เอาประกันภัยอันเกินขอบเขตของกฎหมายที่อนุญาต

        ทั้งนี้บริษัทจะเก็บ รวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการของคุณเฉพาะในกรณีที่คุณสนใจหรือประสงค์จะใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการด้านประกันสุขภาพและ/หรือประกันชีวิตเท่านั้น

    กรณีที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่กฎหมายกำหนด หรือกรณีที่บริษัทต้องเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับคุณ หรือดำเนินการใด ๆ เพื่อคุณตามวัตถุประสงค์ที่ระบุและและคุณไม่ได้ให้ข้อมูลนั้นเมื่อมีการร้องขอ บริษัทอาจไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ข้างต้นได้

  3. บุคคลที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอกต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวไว้ข้างต้น:

    • สมาชิกของแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ หรือผู้ใช้แพลตฟอร์มอารีเกเตอร์
    • กลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือกรุงศรี: บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อกลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือกรุงศรี
      * คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดรายชื่อผู้รับข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของธนาคารกรุงศรีที่หัวข้อรายชื่อกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ผ่านทางลิงก์นี้: https://www.krungsri.com/getmedia/3cf230ad-438f-4701-8f85-d6c06ec28bb9/ks-one-privacy-notice-full-th.pdf.aspx
    • พันธมิตรทางธุรกิจ: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อพันธมิตรทางธุรกิจที่บริษัทได้ร่วมมือเพื่อเสนอหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้กับคุณ ลูกค้าหรือผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต ตัวอย่างเช่น บริษัทประกันภัย ผู้ให้บริการชำระเงิน ผู้ให้บริการวิเคราะห์ ตัวแทนผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา และการสื่อสาร
    • ผู้ให้บริการ: ในกรณีบริษัทใช้ผู้บริการรายอื่นเพื่อให้บริการในนามของบริษัทสำหรับการสนับสนุนบริษัทในการดำเนินธุรกิจ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อผู้ให้บริการเหล่านี้ หรือผู้ให้บริการดังกล่าวอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในนามของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น ผู้บริการจัดส่งพัสดุด่วน ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ให้บริการที่เก็บข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการเครือข่ายแพลตฟอร์มที่ใช้สนับสนุน ผู้ให้บริการด้านการจัดการทั่วไป ผู้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ ผู้ให้บริการจัดส่งข้อความ (SMS) ที่ปรึกษาด้านการตรวจสอบ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์และการขนส่ง ผู้สื่อข่าว และประชาสัมพันธ์
    • บุคคลที่สามอื่น ๆ : บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในนามของคุณ หรือเกี่ยวข้องกับการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณได้รับจากบริษัท ซึ่งรวมถึงสมาชิกของแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์
    • บุคคลที่สามที่คุณอนุญาตหรือมีคำขอให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณด้วยความยินยอมของคุณหรือตามคำขอของคุณ
    • ผู้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ซื้อ (รวมถึงตัวแทนและที่ปรึกษา): ในกรณีที่บริษัทตั้งใจจะขายส่วนหนึ่งส่วนใดของธุรกิจของบริษัทหรือสินทรัพย์ของบริษัท หรือถ้าบุคคลที่สามได้มาซึ่งสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ในกรณีนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ที่บริษัทขาย โดยบริษัทจะแจ้งผู้ซื้อว่าจะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่อธิบายไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น
    • หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามความจำเป็น: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ ตามกฎหมายและวัตถุประสงค์ตามที่จำเป็น เช่น
      • เพื่อตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานกำกับดูแล หรือเพื่อตอบสนองต่อหมาย หมายศาล การตรวจสอบของรัฐบาลหรือการสอบสวน การขอบังคับใช้กฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ คำสั่งทางกฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ
      • เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่น ๆ เช่น บังคับใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัท การใช้ หรือการปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือกรณีที่บริษัท พิจารณาแล้วว่าการเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นหรือเหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิในการปกป้องความปลอดภัยในชีวิตของบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น ๆ ความปลอดภัยของบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกันหรือจัดการกับการฉ้อโกง
  4. ระยะเวลาในการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

    บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ที่มีการเก็บรวบรวมและเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท ตามรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และตามกฎหมายที่บังคับใช้ โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่คุณสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทอาจเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานกว่านั้นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ หรือตามนโยบายบริษัท หรือตามข้อกำหนดเรื่องการปฏิบัติงานของบริษัท เช่น เรื่องการเก็บข้อมูลทางบัญชีที่เหมาะสม เพื่อใช้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทางกฎหมาย หรือกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลร้องขอ

  5. สิทธิของคุณ
    ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุดังต่อไปนี้:
    • สิทธิในการเข้าถึง: คุณมีสิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือร้องขอการเปิดเผยซึ่งการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่คุณไม่ได้ให้ความยินยอม
    • สิทธิในการแก้ไข: เมื่อคุณพิจารณาว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ คุณมีสิทธิร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้
    • สิทธิในการลบหรือทำลาย: คุณมีสิทธิร้องขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้กลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้ที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิของผู้อื่น ความมั่นคงปลอดภัย สัญญาที่มีอยู่ต่อบริษัทรวมถึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมาย
    • สิทธิในการระงับการใช้: คุณมีสิทธิร้องขอการให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ในกรณีที่เห็นว่าการใช้ข้อมูลของคุณไม่ถูกต้องเหมาะสม หรือขอระงับการลบ/ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
    • สิทธิในการคัดค้าน: คุณมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การคัดค้านการตลาดแบบตรง ซึ่งรวมถึงการทำโปรไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดแบบตรงนั้นด้วย
    • สิทธิในการถอนความยินยอม: หากคุณเคยให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณมีสิทธิถอนความยินยอมของคุณได้ตลอดเวลา
    • สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล: ในกรณีที่กฎหมายให้คุณมีสิทธิที่จะตรวจสอบข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และการส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้องค์กรอื่นโดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณได้ให้ไว้กับบริษัท และ (ข) กรณีบริษัทได้รับความยินยอมจากคุณหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับคุณ
    • สิทธิในการร้องเรียน: คุณมีสิทธิที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยบริษัทหรือในนามของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทขอโอกาสจัดการแก้ไขสิ่งที่คุณกังวลก่อนที่คุณจะติดต่อหน่วยงานที่มีอำนาจ บริษัทขอให้คุณติดต่อบริษัทเป็นอันดับแรกเพื่อพูดคุยแก้ไขในสิ่งที่คุณกังวล

    ทั้งนี้ การขอใช้สิทธิของคุณตามที่กำหนดอาจมีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย และบางกรณีบริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของคุณด้วยเหตุผลที่เหมาะสม โดยคุณสามารถใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ตามที่อยู่ในหัวข้อ “การติดต่อสอบถาม”

  6. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

    บริษัทอาจแก้ไขหรือปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว ตามการเปลี่ยนแปลงของแนวทางการปฏิบัติหรือนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย ฯลฯ การแก้ไขหรือการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทประกาศบนเว็บไซต์ บริษัทจะแจ้งให้คุณทราบ หรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง หากมีการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

  7. การติดต่อสอบถาม

    บริษัทให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามทุกข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยคุณสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการร้องเรียนเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่อีเมล [email protected] หรือหากคุณมีข้อสอบถามหรือต้องการขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อ:

    บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
    สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 428 อาคารอารีย์ ฮิลล์ ชั้น 9-15 ถนนพหลโยธิน
    แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกอารีเกเตอร์

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกอารีเกเตอร์ ฉบับนี้ (“นโยบาย”) ออกโดย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” “เรา” หรือ “ของเรา”) ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและ/หรือเว็บไซต์อารีเกเตอร์ (“แพลตฟอร์มอารีเกเตอร์”) เพื่อแจ้งบุคคลภายนอกที่บริษัทมีปฏิสัมพันธ์ด้วย อันรวมถึงนายหน้า ตัวแทน สมาชิก และผู้ใช้รายอื่น ๆ ซึ่งใช้แพลตฟอร์มและ/หรือเว็บไซต์อารีเกเตอร์ (ทั้งหมดรวมเรียกว่า “คุณ” หรือ “ของคุณ”) ได้ทราบถึงจุดประสงค์ของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และ/หรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ รวบรวม

    บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง (ในฐานะสมาชิกของบริษัท) หรือโดยอ้อมจากแหล่งอื่น ๆ และ/หรือผ่านบริษัทในเครือ บริษัทอื่น ๆ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลที่สาม ( เช่น ตัวแทนอ้างอิง หรือ การแนะนำโดยสมาชิก)

    บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยอาศัยฐานทางกฎหมายอันได้แก่ (1) การปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือธุรกรรมแก่คุณ (2) การปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลอื่น (4) ฐานประโยชน์ที่สำคัญเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ เพื่อการดำเนินการอันเป็นสาธารณประโยชน์ หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ

    กรณีที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมสำหรับดำเนินกิจกรรมบางอย่างในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทจะดำเนินการขอรับความยินยอมจากคุณสำหรับกิจกรรมดังกล่าวแยกต่างหาก

    ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมขึ้นอยู่กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการหรือประสงค์จากบริษัทโดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณดังต่อไปนี้

    1. ข้อมูลทั่วไป
      • ข้อมูลระบุตัวตน: เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ สัญชาติ ที่อยู่ อีเมล เอกสารการระบุตัวตนที่ออกโดยรัฐบาล (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารการระบุตัวตนอื่น ๆ ที่ออกโดยรัฐบาล) หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ภาพถ่าย หมายเลขโทรศัพท์ Line ID หมายเลขประจำตัวสมาชิก ใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัย หมายเลขใบอนุญาตการเป็นนายหน้าประกันภัย ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน สถานภาพการสมรส ลายเซ็น รวมถึงข้อมูลด้านอาชีพและสถานะการจ้างงาน
      • รายละเอียดทางการเงิน: เช่น รายละเอียดบัญชีธนาคารของคุณ ชื่อบัญชีธนาคารและหมายเลขบัญชี เอกสารหรือหลักฐานการชำระเงิน ข้อมูลการเกี่ยวกับการทำธุรกรรม สถานะทางการเงิน และรายละเอียดค่าตอบแทน หรือ ค่าคอมมิชชั่น
      • ข้อมูลการสื่อสาร: เช่น บันทึกการสอบถามของคุณ และรายละเอียด หรือเนื้อหาของการสื่อสารระหว่างคุณกับบริษัท รายละเอียดหรือเนื้อหาของการสื่อสารระหว่างคุณกับผู้อื่นซึ่งใช้แพลตฟอร์ม และ/หรือเว็บไซต์อารีเกเตอร์ หรือรายละเอียดหรือเนื้อหาของการสื่อสารระหว่างคุณกับลูกค้า
      • รายละเอียดผลการปฏิบัติงาน: เช่น บันทึกผลการปฏิบัติงานของคุณ บันทึกการขาย และข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินของสมาชิก
      • ข้อมูลอุปกรณ์: เช่น ประเภทของอุปกรณ์ของคุณ ประเภทและเวอร์ชันของเว็บเบราว์เซอร์ ประเภทและเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ การตั้งค่าการแสดงผลหรือหน้าจอ ภาษาที่เลือก การติดต่อกับอุปกรณ์ ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP address) ข้อมูลเครือข่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่ตั้ง และรหัสประจำตัวของอุปกรณ์
      • การตั้งค่าและความสนใจ: เช่น ความสนใจของคุณ การตั้งค่าต่าง ๆ กิจกรรมการใช้งาน และเว็บไซต์คุกกี้
      • ข้อมูลการตลาด: เช่น การตั้งค่าและความสนใจทางการตลาดของคุณ ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัท คาดว่าคุณอาจสนใจ และการอ้างถึง/การอนุมานตามการโต้ตอบหรือการปฏิสัมพันธ์ของคุณกับบริษัท บริษัทในเครือ หรือพันธมิตรของบริษัท
      • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น: บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นคุณได้ให้ไว้แก่บริษัท (เช่น การอ้างอิง บุคคลอ้างอิงของคุณ หรือบุคคลที่คุณแนะนำเพื่อสมัครเป็นสมาชิก) สำหรับการดำเนินการให้บริการของบริษัท โดยหากคุณให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่บริษัท คุณรับรองและให้การยืนยันว่าคุณมีอำนาจในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดย (ก) แจ้งให้บุคคลอื่นนั้นทราบเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ และ (ข) ได้รับความยินยอมในกรณีที่เกี่ยวข้อง หรือเมื่อจำเป็นเพื่อให้บริษัท สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
    2. ข้อมูลละเอียดอ่อน (Sensitive Data)
      • ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน: เช่น ข้อมูลศาสนา (ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน) โดยกรณีบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะดำเนินการบนพื้นฐานของความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือตามข้อยกเว้นทางกฎหมายซึ่งอนุญาตให้ไม่ต้องขอความยินยอม

    บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถภายใต้ความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนหรือผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลในกรณีที่มีความจำเป็น หรือเมื่อบริษัทมีฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวมได้ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยปราศจากความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนตามจำเป็น หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย ในกรณีที่บริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่เจตนาจากผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายนั้น บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวทันทีโดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนข้อมูลดังกล่าวก็ต่อเมื่อบริษัทสามารถอ้างเหตุผลทางกฎหมายอื่น นอกจากการขอความยินยอมเท่านั้น

  2. วัตถุประสงค์การจัดเก็บ รวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

    บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับคุณปฏิสัมพันธ์ระหว่างคุณและบริษัท ดังนี้

    • เพื่อดำเนินการในขั้นตอนการลงทะเบียน เช่น เพื่อดำเนินการลงทะเบียนสมาชิก สร้างโปรไฟล์สมาชิก ตรวจสอบประวัติ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลของคุณกับบัญชีดำ การฟอกเงิน การฉ้อโกง และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (RPT) และเพื่อการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าเป็นสมาชิก
    • เพื่อให้บริการแก่คุณ เช่น การให้บริการแพลตฟอร์มและ/หรือเว็บไซต์แก่คุณเพื่อการดำเนินการขายประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกการเรื่องการนำเข้าข้อมูลและการใช้ข้อมูลของลูกค้าที่เกี่ยวข้อง ผู้รับประกันภัย และสมาชิกอื่น ๆ (ในกรณีที่เกี่ยวข้อง) เพื่อให้คุณสามารถจัดทำใบเสนอราคาการประกันภัยให้แก่ลูกค้า เพื่อการให้บริการแพลตฟอร์มและ/หรือเว็บไซต์แก่คุณเพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างนายหน้า ตัวแทน สมาชิก ลูกค้า และผู้รับประกันภัย เพื่อให้สามารถมีการทำธุรกรรมระหว่างนายหน้า ตัวแทน สมาชิก และบริษัท เพื่อติดตามตรวจสอบบันทึกการทำธุรกรรม (เช่น ใบแจ้งต่ออายุการเอาประกันภัย ใบแจ้งสถานะ การปรับปรุงกระเป๋าเงินและสถานะการขาย)
    • เพื่อใช้ข้อมูลทางธุรกรรมและ/หรือการชำระเงิน: เช่น การประมวลผลการชำระเงิน การประมวลผลการหักภาษี ณ ที่จ่าย การออกรายงานเงินได้ประจำปี การออกใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย การออกใบกำกับภาษีและใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • การปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท: เช่น เพื่อทำการวิจัยหรือวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการให้บริการของบริษัท รวมถึงการใช้ข้อมูลนิรนามเพื่อวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ของเครื่องจักรกล เพื่อตรวจสอบว่าส่วนใดในแพลตฟอร์มและ/หรือเว็บไซต์ของบริษัทที่คุณเข้าชม หรือส่วนใดของแพลตฟอร์มที่คุณพบว่ามีประโยชน์มากที่สุด การประเมินส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ และประสบการณ์ การทดลองใช้คุณสมบัติหรือฟังก์ชั่นต่าง ๆ เพื่อทำการซ่อมแซมจุดบกพร่องในโปรแกรม (Debug) และแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อวิเคราะห์การใช้บริการออนไลน์ของบริษัท
    • การป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: เช่น เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกที่เกี่ยวกับคำขอประกันภัยที่เป็นการฉ้อฉล เพื่อตรวจสอบบันทึกกิจกรรมเครือข่ายของสมาชิก เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความปลอดภัย เพื่อดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและเพื่อป้องกันอันตรายอันอาจเกิดกับข้อมูล การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
    • การโฆษณาและการตลาด เช่น เพื่อทำการตลาด การสื่อสาร ประกาศ ข่าวสาร และการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบริการอื่น ๆ รวมถึงการโฆษณา และการสื่อสารทางการตลาด บริการ และของรางวัลจากบริษัท บริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
    • เพื่อการยืนยันตัวตนของคุณ: เช่น เพื่อการลงทะเบียน การยืนยัน การระบุตัวตนและการรับรองความถูกต้องของคุณหรือตัวตนขอคุณและการลงนาม เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกระบวนการตรวจสอบข้อมูลของคุณจากบัญชีดำ การฟอกเงินและการก่อการร้าย เพื่อยืนยันตำแหน่งของคุณเพื่อให้สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณ และเพื่อเก็บคำถามรักษาความปลอดภัยที่ใช้ในการยืนยันตัวตนในภายหลังสำหรับกรณีผ่านทางออนไลน์ หรือมือถือ
    • เพื่อการสื่อสารและการจัดการความสัมพันธ์ของเรากับคุณ: เช่น เพื่อตอบสนองและปฏิบัติตามคำขอของคุณเกี่ยวกับบริการที่บริษัทเสนอหรือให้ เพื่อจัดการบัญชีและจัดการความสัมพันธ์ของเรา เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและจัดการปัญหาทางเทคนิค เพื่อประมวลผลและปรับปรุงข้อมูลของคุณให้เป็นปัจจุบัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการของบริษัท เพื่อดำเนินการตามข้อร้องเรียนของคุณ
    • การจัดการฝึกอบรม: เช่น การจัดอบรม สัมมนา รวมถึงกระบวนการพัฒนาบุคลากรด้วยวิธีอื่นใด
    • การดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ: เช่น เพื่อปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลของคุณ เพื่อรักษาความถูกต้องของข้อมูล เพื่อทำการควบคุมความเสี่ยงของบริษัท การตรวจสอบและการเก็บบันทึกการตรวจสอบ เพื่อเก็บบันทึกทางธุรกิจและอื่น ๆ เพื่อการปฏิบัติงาน จัดการ และรักษาการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อดูแลการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท การจัดการระบบสื่อสาร การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และเพื่อดูแลการจัดการธุรกิจภายใน สำหรับข้อกำหนดการปฏิบัติงานภายใน นโยบายและขั้นตอนของบริษัท
    • การปกป้องประโยชน์ของบริษัท: เช่น เพื่อป้องกันความปลอดภัยและความมั่นคงของบริษัท การใช้สิทธิ์และการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท เมื่อจำเป็นและสามารถทำได้ตามกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจจับ ป้องกันและตอบสนองการร้องเรียนที่เป็นการทุจริต และเพื่อประเมินความเสี่ยงจากการทุจริต และการระบุธุรกรรมที่มีการทุจริต การเรียกร้องเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินและสินทรัพย์ของเรา เพื่อดำเนินการตรวจสอบรายชื่อการติดโทษ (sanction list) การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบภายในและบันทึก การจัดการสินทรัพย์ ระบบและการควบคุมธุรกิจอื่น ๆ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามอันตรายซึ่งอาจเกิดกับชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เพื่อการตรวจสอบรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัท การติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกัน และรายงานความผิดทางอาญา และเพื่อปกป้องความปลอดภัย และความมั่นคงของบริษัท สำหรับการอ้างอิง และใช้เป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้อง หรือการดำเนินคดี
    • ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย: เช่น การปฏิบัติตามกฎหมาย การดำเนินคดี หรือคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งอาจรวมถึงคำสั่งจากหน่วยงานของรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือการให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานราชการ และหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เมื่อบริษัท มีความเห็นสมควรว่า บริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อให้ความร่วมมือตามกฎหมาย การดำเนินการ คำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ หลักจรรยาบรรณ และนโยบายภายในของบริษัทและบริษัทในเครือ การใช้สิทธิและการโต้ตอบข้อเรียกร้องทางกฎหมาย เพื่อเก็บรักษาบันทึกและแก้ไขข้อร้องเรียนและข้อพิพาท เพื่อประมวลผลการดำเนินกิจกรรม เพื่อประมวลผลกิจกรรมการรายงานเครดิต และการกำกับดูแลและการรายงานภาษี การเปิดเผยเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบ
    • การทำงานของเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท: เช่น เพื่อดูแลการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท การจัดการระบบสื่อสาร การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารงาน การดำเนินงาน การติดตามงาน การตรวจสอบ และจัดการเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับคุณในเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท ปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาในเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงระบบที่มีอยู่และให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค
    • การทำธุรกรรมขององค์กร: ในกรณีที่มีการขายกิจการ โอนกิจการ การควบรวมกิจการ ปรับโครงสร้างกิจการ หรือเหตุการณ์ที่คล้ายกัน ซึ่งบริษัทอาจโอนข้อมูลของคุณไปยังบุคคลที่สามอย่างน้อยหนึ่งราย อันเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมนั้น
    • การป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: เช่น การตรวจสอบบันทึกกิจกรรมเครือข่าย เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ความปลอดภัย เพื่อดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยและเพื่อป้องกันอันตรายอันอาจเกิดกับข้อมูล การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายและกิจกรรมอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวโยงกับการบำรุงรักษาข้อมูล
    • วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน:
      • ข้อมูลศาสนา: ตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยัน พิสูจน์ตัวตน และยื่นสำเนาบัตรประชาชนของคุณในการดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
        หมายเหตุ: บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทไม่มีวัตถุประสงค์ในการเก็บ ใช้และไม่มีการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าบัตรประชนของคุณในระบบข้อมูลของบริษัท

    หมายเหตุ: กรณีที่บริษัทจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามที่กฎหมายกำหนด หรือกรณีที่บริษัทต้องเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับคุณหรือปฏิบัติตามเงื่อนไขการจัดกิจกรรมกับคุณหรือดำเนินการใด ๆ เพื่อคุณตามวัตถุประสงค์ที่ระบุและคุณไม่ได้ให้ข้อมูลนั้นเมื่อมีการร้องขอ บริษัทอาจไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องตามที่ระบุไว้ข้างต้นได้

  3. บุคคลที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอกต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวไว้ข้างต้น:

    • กลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือกรุงศรี: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อกลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือกรุงศรี
      * คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดรายชื่อผู้รับข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของธนาคารกรุงศรีที่หัวข้อรายชื่อกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ผ่านทางลิงก์นี้: https://www.krungsri.com/getmedia/3cf230ad-438f-4701-8f85-d6c06ec28bb9/ks-one-privacy-notice-full-th.pdf.aspx
    • พันธมิตรทางธุรกิจ: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อพันธมิตรทางธุรกิจที่บริษัทได้ร่วมมือเพื่อเสนอหรือพัฒนาบริการให้กับคุณ ลูกค้าหรือผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคต ตัวอย่างเช่น บริษัทประกันภัย
    • ผู้ให้บริการ: บริษัทอาจใช้ผู้ให้บริการรายอื่นเพื่อให้บริการในนามของบริษัท และเพื่อสนับสนุนบริษัทในการดำเนินธุรกิจ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อผู้ให้บริการเหล่านี้ หรือบริษัทดังกล่าวอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในนามของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการที่เก็บข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการเครือข่ายแพลตฟอร์มที่ใช้สนับสนุน ผู้ให้บริการด้านการจัดการทั่วไป ผู้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ ผู้ให้บริการจัดส่งข้อความ (SMS) ที่ปรึกษาด้านการตรวจสอบ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์และการขนส่ง ผู้สื่อข่าวและประชาสัมพันธ์
    • บุคคลที่สามอื่น ๆ : บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในนามของคุณหรือเกี่ยวข้องกับการจัดหาบริการที่คุณได้รับจากบริษัท รวมถึงนายหน้า ตัวแทน หรือสมาชิกรายอื่น ตามที่เกี่ยวข้อง
    • บุคคลที่สามที่คุณอนุญาตหรือมีคำขอให้เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณด้วยความยินยอมของคุณหรือตามคำขอของคุณ
    • หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามความจำเป็น: บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต่อหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ ตามกฎหมายและวัตถุประสงค์ตามที่จำเป็น เช่น
      • เพื่อปฏิบัติตามคำขอจากหน่วยงานกำกับดูแล หรือเพื่อปฏิบัติตามหมาย หมายศาล การตรวจสอบของรัฐบาลหรือการสอบสวน การขอบังคับใช้กฎหมาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ คำสั่งทางกฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ
      • เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่น ๆ เช่น บังคับใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัท การใช้ หรือการปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือกรณีที่บริษัทพิจารณาแล้วว่าการเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นหรือเหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิในการปกป้องความปลอดภัยในชีวิตของบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น ๆ ความปลอดภัยของบุคคลหรือทรัพย์สิน หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน หรือจัดการกับการฉ้อโกง
    • ผู้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ซื้อ (รวมถึงตัวแทนและที่ปรึกษา): ในกรณีที่บริษัท ตั้งใจจะขายส่วนหนึ่งส่วนใดของธุรกิจของบริษัท หรือสินทรัพย์ของบริษัท หรือถ้าบุคคลที่สามได้มาซึ่งสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท กรณีนี้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ที่บริษัทขาย โดยบริษัทจะแจ้งผู้ซื้อว่าจะต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่อธิบายไว้ในนโยบายนี้เท่านั้น
  4. ระยะเวลาการเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

    บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อใช้ตามจุดประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เป็นไปตามรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และกฎหมายที่ใช้บังคับ โดยบริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่คุณสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือผ่านการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัทไปแล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานกว่านั้น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ หรือตามนโยบายบริษัท หรือตามข้อกำหนดเรื่องการปฏิบัติงานของบริษัท เช่น เรื่องการเก็บข้อมูลทางบัญชีที่เหมาะสม เพื่อใช้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องทางกฎหมาย หรือกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลร้องขอ

  5. สิทธิของคุณ

    ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุดังต่อไปนี้

    • สิทธิในการเข้าถึง: คุณมีสิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือร้องขอการเปิดเผยซึ่งการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่คุณไม่ได้ให้ความยินยอม
    • สิทธิในการแก้ไข: เมื่อคุณพิจารณาว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ คุณมีสิทธิร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้
    • สิทธิในการลบหรือทำลาย: คุณมีสิทธิร้องขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้กลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้ที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมายไม่กระทบกระเทือนต่อ สิทธิของผู้อื่น ความมั่นคงปลอดภัย สัญญาที่มีอยู่ต่อบริษัท รวมถึงไม่เป็นการขัดต่อกฎหมาย
    • สิทธิในการระงับการใช้: คุณมีสิทธิร้องขอการให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ในกรณีที่เห็นว่าการใช้ข้อมูลของคุณไม่ถูกต้องเหมาะสม หรือขอระงับการลบ/ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
    • สิทธิในการคัดค้าน: คุณมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเช่น การคัดค้านการตลาดแบบตรง ซึ่งรวมถึงการทำโปรไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการตลาดแบบตรงนั้นด้วย
    • สิทธิในการถอนความยินยอม: หากคุณเคยให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ คุณมีสิทธิถอนความยินยอมของคุณได้ตลอดเวลา
    • สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล: ในกรณีที่กฎหมายให้คุณมีสิทธิที่จะตรวจสอบข้อมูลที่มีการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และการส่งข้อมูลดังกล่าวไปให้องค์กรอื่นโดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณได้ให้ไว้กับบริษัทและ (ข) กรณีบริษัทได้รับความยินยอมจากคุณหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่มีกับคุณ
    • สิทธิในการร้องเรียน: คุณมีสิทธิที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยบริษัท หรือในนามของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทขอโอกาสจัดการแก้ไขสิ่งที่คุณกังวล ก่อนที่คุณจะติดต่อหน่วยงานที่มีอำนาจ บริษัทขอให้คุณติดต่อบริษัทเป็นอันดับแรกเพื่อพูดคุยแก้ไขในสิ่งที่คุณกังวล

    ทั้งนี้ การขอใช้สิทธิของคุณตามที่กำหนดอาจมีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย และบางกรณีบริษัทสามารถปฏิเสธคำขอของคุณด้วยเหตุผลที่เหมาะสม โดยคุณสามารถใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ตามที่อยู่ในหัวข้อ “การติดต่อสอบถาม”

  6. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

    บริษัทอาจแก้ไขหรือปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว ตามการเปลี่ยนแปลงของแนวทางการปฏิบัติหรือนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย ฯลฯ การแก้ไขหรือการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อบริษัท ประกาศบนเว็บไซต์ บริษัทจะแจ้งให้คุณทราบ หรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง หากมีการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

  7. การติดต่อสอบถาม

    บริษัทให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ และมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามทุกข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยคุณสามารถติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในการร้องเรียนเรื่องการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่อีเมล [email protected] หรือ หากคุณมีข้อสอบถามหรือต้องการขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อ:

    บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
    สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ เลขที่ 428 อาคารอารีย์ ฮิลล์ ชั้น 9-15 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400