ตอบ 10 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกันประกันรถยนต์

หลายคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะกำลังอยากทำประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพราะลำพังแล้วประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่ทำอยู่ทุกปี ก็คุ้มครองได้ไม่ครอบคลุมค่าเสียหายต่างๆ เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ

1. ประกันรถยนต์คุ้มครองอะไรบ้าง?

   สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจหรือการทำประกับเพิ่มเติมกับบริษัทประกัน เป็นการคุ้มครองโดยบริษัทประกันภัยให้กับผู้ที่ทำประกัน แบ่งการคุ้มครองเป็น 5 แบบคือ

   1. คุ้มครองต่อความรับผิดชอบกับบุคคลภายนอก
      โดยประกันจะรับผิดชอบค่าสินไหม และค่ารักษากับคนที่ได้รับอุบัติเหตุจากรถของผู้เอาประกัน รวมถึงผู้ที่โดยสารอยู่ในรถที่ทำประกันด้วย

   2. คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
      ขับรถไปเฉี่ยวชนกับทรัพย์สินผู้อื่น เช่น รถยนต์ รั้วบ้าน เสาไฟฟ้า ประกันรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

   3. คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์
      ประกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับซ่อมรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายทั้งตัวรถ อุปกรณ์แต่งรถ ยกเว้นกรณีไฟไหม้ที่จะไม่ครอบคลุม

   4. คุ้มครองเมื่อรถสูญหายหรือไฟไหม้
      ประกันคุ้มครองให้ในกรณีที่รถเสียหายจากไฟไหม้ทั้งในกรณีที่ไฟลุกไหม้เอง หรือจากสาเหตุอื่น รวมถึงคุ้มครองเมื่อรถยนต์ถูกโจรกรรม หรือถูกถอดขโมยชิ้นส่วนของตัวรถ

   5. ความคุ้มครองที่เลือกได้เพิ่มเติม
      นอกจากนี้ยังสามารถเลือกให้ประกันคุ้มครองเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับราคาประกันรถยนต์ที่เลือกทำ ได้แก่

      • ประกันภัยส่วนบุคคลของผู้ขับขี่
      • ประกันค่ารักษาพยาบาล
      • การประกันตัวผู้ขับขี่

2. ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท?

   สำหรับประกันภัยรถยนต์แบ่งประเภทกรมธรรม์ ออกเป็น 5 ประเภท โดยแตกต่างกันที่รูปแบบการคุ้มครอง ซึ่งขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ทำประกันว่าต้องการรูปแบบไหน ได้แก่

   • ประกันรถยนต์ชั้น 1
   • ประกันรถยนต์ชั้น 2
   • ประกันรถยนต์ชั้น 2+
   • ประกันรถยนต์ชั้น 3
   • ประกันรถยนต์ชั้น 3+

3. เคลมประกันรถยนต์ได้อย่างไรบ้าง?

   เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ ให้ตั้งสติให้ดีแล้วและค่อยจัดการทีละขั้นตอน ก่อนแจ้งเคลม การเตรียมข้อมูลอุบัติเหตุสำคัญมาก

   • เหตุเกิดเมื่อไหร่
   • มีคู่กรณีไหม
   • มีคนบาดเจ็บไหม
   • มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหรือไม่
   • มีพยานไหม
   • คู่กรณีเป็นใคร

4. ทำประกันชั้น 1 แล้วทำไมยังมีค่าใช้จ่าย?

   สำหรับประกันภัยชั้น 1 ที่หลายคนคิดว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดแล้ว แต่จะมีค่าใช้จ่ายนอกจากเบี้ยประกันให้คุณชำระในกรณีที่มีการเคลมประกันเกิดขึ้น นั่นคือค่าเสียหายส่วนแรก แบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ

   • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess : จ่ายเมื่อต้องการเคลมในกรณีที่ระบุคู่กรณีไม่ได้
   • ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible : เป็นค่าใช้จ่ายแบบสมัครใจเมื่อต้องการเคลมในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด

5. ไม่เคยเคลมประกันเลย เบี้ยจะลดลงไหม?

   หมั่นเช็คเบี้ยประกันทุกปี เพราะเบี้ยประกันสามารถลดได้ สำหรับรถไม่เคยมีการเคลมประกันเลยในช่วงประกันปีแรก เบี้ยประกันในปีต่อไปจะลดลง อีกกรณีหนึ่งถ้ารถเกิดอุบัติเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายถูก ทางบริษัทประกันเรียกเงินค่าเสียหายจากคู่กรณีได้ ก็ช่วยให้เบี้ยประกันในปีถัดไปลดลงเช่นกัน

   ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนบริษัทประกันภัยใหม่ โดยประวัติการขับรถดี ไม่มีการเคลมประกันเลย ก็สามารถนำไปลดเบี้ยประกันกับทางบริษัทประกันใหม่ได้

   

6. ไม่เคยเคลมประกันเลย เบี้ยจะลดลงไหม?

   ในขั้นตอนของการขอเคลมประกันกับบริษัทที่รับผิดชอบ คุณจะได้เลือกศูนย์บริการซ่อมรถหรืออู่รถที่สะดวกกับคุณ

   เคลมแบบส่งซ่อมศูนย์
   หลายคนอุ่นใจกับการส่งรถไปซ่อมกับศูนย์บริการตามยี่ห้อรถ เพราะจะได้อะไหล่แท้จากศูนย์บริการ แต่อาจจะต้องรอคิวซ่อมนาน

   เคลมแบบส่งซ่อมอู่
   การเลือกซ่อมอู่ ทางประกันจะให้ส่งรถไปซ่อมกับอู่ทำข้อตกลงกับทางบริษัทเอาไว้ ในกรณีที่เป็นรถใหม่อายุไม่เกิน 3 ปี ทางบริษัทประกันภัยจะให้ใช้อะไหล่แท้จากศูนย์มาทำการซ่อม

7. รถมีประกันแต่คนขับรถไม่มีใบขับขี่ ประกันจะคุ้มครองมั้ย?

   สำหรับกรณีที่คนขับรถไม่มีใบขับขี่แล้วขับรถไปประสบอุบัติเหตุ การรับผิดชอบของประกันจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

   1. ถ้าเราเป็นฝ่ายถูก: ประกันของคู่กรณียังรับผิดชอบค่าเสียหายให้กับเราตามปกติ
   2. ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด: ประกันจะแบ่งการคุ้มครองออกเป็น 2 แบบ
      1. ประกันจะไม่คุ้มครองค่าเสียหายให้กับเรา แต่ยังคุ้มครองคู่กรณีตามปกติ นั่นแปลว่าถ้ามีประกันชั้น 1 จะกลายเป็นชั้น 3 ทันที ถ้า
         • ไม่มีใบขับขี่มาก่อน
         • ใบอนุญาติขับขี่โดนระงับ
      2. ประกันคุ้มครองตามปกติ สำหรับ
         • ใบขับขี่หมดอายุ
         • ลืมพกมาในขณะเกิดเหตุ
         • ใบขับขี่โดนยึด

8. ทำประกันหลังจากรถเสียหาย คุ้มครองหรือไม่?

   รถที่ใช้อยู่มีร่องรอยขีดข่วนเล็กน้อยหรือสีถลอก จะทำประกันเพื่อเคลมได้ไหม?

   คำตอบคือ ทำประกันได้ แต่เคลมไม่ได้ เพราะกรณีนี้ถือว่าร่องรอยเกิดก่อนการทำประกัน โดยทางบริษัทจะมีการบันทึกร่องรอยเก่าเอาไว้ และจะรับผิดชอบแค่รอยที่เกิดขึ้นหลังจากทำประกันเท่านั้น

   ดังนั้น ควรเอารถไปจัดการซ่อมแซมรอยให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนทำประกันจะดีที่สุด

9. ประกันรถยนต์ชั้น 1 ทำได้สูงสุดกี่ปี?

   ต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ไปตลอดได้หรือไม่ เพราะคุ้มครองได้ครอบคลุมและคุณเองก็สามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ตลอด

   คำตอบคือ ไม่ได้ครับ สำหรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 มีกำหนดอายุการใช้งานของรถยนต์อยู่ด้วย บางบริษัทรับรถอายุไม่เกิน 7 ปี บางที่อาจจะถึง 9 ปี โดยอายุของรถยนต์จะเริ่มนับปีแรกหลังจากถูกซื้อออกจากศูนย์บริการ แต่สำหรับรถยนต์ที่อายุเกินแล้วยังสามารถทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ได้

10. ทำประกันรถได้จากที่ไหนบ้าง?

    อยากทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ หรือเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ใหม่ ทำได้กับตัวแทน 2 แบบคือ กับตัวแทนบริษัทประกันโดยตรง และโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์

    1. ตัวแทนประกันภัยรถยนต์
       ตัวแทนของแต่ละที่จะเสนอแผนประกันเฉพาะบริษัทที่ตนเองรับผิดชอบเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณสนใจประกันภัยของบริษัทไหนเป็นพิเศษอยู่แล้วก็สามารถติดต่อโดยตรงได้เลย
    2. โบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์
       อีกรูปแบบหนึ่งของการทำประกันภัยคือ ติดต่อผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งอาจจะเป็นนายหน้าหรือบริษัทก็ได้ โดยข้อดีของการซื้อประกันผ่านโบรกเกอร์คือ คุณสามารถเลือกดูแผนประกันได้จากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจซื้อได้